มรณสักขี
ค.ศ. 1909-1940
(16 ธันวาคม)
เกิดเมื่อปี ค.ศ.
1909/พ.ศ. 2452
ที่บ้านนาฮี บิดาชื่อโยกิม สอน มารดาชื่ออันนา จูม
เมื่อเยาว์วัยบิดามารดาได้ย้ายภูมิลำเนาหลายครั้ง
ครั้งสุดท้ายย้ายมาอยู่ที่บ้านเวียงคุก จังหวัดหนองคาย เมื่อพิลา (สุภีร์) อายุประมาณ 6 ขวบ
ครอบครัวนายสอนได้กลับใจมานับถือศาสนาคาทอลิกทุกคนในเวลาต่อมา
เมื่ออายุได้ 15 ปี
ได้สมัครใจเข้าเป็นซิสเตอร์ฝึกหัดคณะรักกางเขนที่อารามเชียงหวาง ประเทศลาว
ได้ถวายตัวเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ.1932/พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา
แม้ท่านจะเป็นคาทอลิกใหม่ แต่ท่านเป็นผู้ที่มีความเชื่อมั่นคงศรัทธา
ขยันขันแข็งในหน้าที่การงาน
นอกจากช่วยงานวัด สอนหนังสือและสอนคำสอนแล้ว ท่านยังช่วยทำไร่ทำนาด้วย
และท่านถูกสังหารชีวิตในวันที่ 26 ธันวาคม 1940 ขณะนั้นอายุ 31 ปี และได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่
22 ตุลาคม ค.ศ. 1989/พ.ศ. 2532
มรณสักขีค.ศ. 1917-1940(16 ธันวาคม)
เกิดเมื่อวันที่ 22
มกราคม ค.ศ. 1917/พ.ศ. 2460 ที่บ้านเวียงคุก จังหวัดหนองคาย
บิดาชื่อยากอบ คำ มารดาชื่อมักดาเลนา สี ถวายตัวเป็นซิสเตอร์ที่อารามเชียงหวาง
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ.
1937/พ.ศ. 2480
และมาปฏิบัติหน้าที่ที่สองคอนเมื่อปี ค.ศ. 1938
ซิสเตอร์ลูซีอา คำบาง เป็นผู้ที่มีนิสัยเรียบร้อย สงบเสงี่ยม เยือกเย็น
น่ารัก พูดน้อย มีความมั่นคงเลื่อมใสศรัทธาในศาสนา ถือระเบียบวินัยเคร่งครัด
มีความเข้มแข็ง และกล้าหาญ และถูกสังหารชีวิตในวันที่ 26
ธันวาคม ค.ศ. 1940 ขณะนั้นอายุ 23
ปีและได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่
22
ตุลาคม ค.ศ. 1989/พ.ศ. 2532
มรณสักขี
ค.ศ. 1881-1940
(16 ธันวาคม)
ประวัติน้อยมาก นัยว่าเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1881/พ.ศ. 2424 ที่บ้านแก้วโพธิ์ ไม่ทราบชื่อบิดามารดา
ได้กลับใจมานับถือศาสนาคาทอลิกเมื่ออายุมากแล้ว ไม่เคยแต่งงาน
เคยทำหน้าที่เป็นแม่ครัวตามวัดต่างๆ มาแล้วหลายวัด
ครั้งสุดท้ายจึงมาทำหน้าที่เป็นแม่ครัวที่วัดสองคอน เป็นผู้สูงอายุที่ชาวสองคอนให้ความรักนับถือ
เรียกว่า "แม่" และถูกสังหารชีวิตในวันที่
26 ธันวาคม ค.ศ. 1940 ขณะนั้นมีอายุประมาณ 59
ปี และได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1989/พ.ศ. 2532
มรณสักขี
ค.ศ. 1924-1940
(16 ธันวาคม)
เกิดเมื่อวันที่ 16
ธันวาคม ค.ศ. 1924/พ.ศ. 2467 ที่บ้านสองคอน บิดาชื่อนายศรีนวล
มารดาชื่อนางเทพ มีพี่น้องรวม 8 คน เป็นคาทอลิกแต่แรกเกิด
นางสาวบุดสีเป็นผู้มีความศรัทธา มีความรักและเชื่อในองค์พระเจ้ามั่นคงแน่นแฟ้น
มีความกล้าหาญ จริงจัง และเด็ดเดี่ยว มีความสนิทสนมและใกล้ชิดกับซิสเตอร์ทั้งสอง
และมาพักอาศัยอยู่กับซิสเตอร์เป็นประจำ เธอถูกสังหารเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 1940 ขณะนั้นเธอมีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น และเธอได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1989/พ.ศ. 2532
มรณสักขี
ค.ศ. 1925-1940
(16 ธันวาคม)
เกิดเมื่อวันที่ 4
พฤศจิกายน ค.ศ. 1925 / พ.ศ. 2468 ที่บ้านสองคอน เป็นบุตรคนสุดท้ายของนายโลน
และนางดี เป็นครอบครัวคาทอลิกที่มีความศรัทธา
นางสาวคำไพเคยมาพักอยู่กับซิสเตอร์เพื่อแก้บน
เมื่อครบกำหนดแล้วจึงกลับมาอยู่กับบิดามารดา มีพี่น้องด้วยกัน 8 คน เป็นคนเรียบร้อย สงบเสงี่ยมและกล้าหาญ ถูกสังหารเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 1940 ขณะนั้นมีอายุเพียง 15 ปี และได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1989 / พ.ศ. 2532
มรณสักขี
ค.ศ. 1926-1940
(16 ธันวาคม)
เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ.
1926/พ.ศ. 2469
ที่บ้านสองคอน บิดาชื่อนายดั้น มารดาชื่อนางผา เป็นคาทอลิกแต่กำเนิด
บิดาของเด็กหญิงพรได้ทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่เด็กหญิงพรยังเล็กอยู่
และมารดาไม่แต่งงานใหม่ เด็กหญิงพรจึงอาศัยอยู่กับยายและน้าสาว
เด็กหญิงพรมีนิสัยไม่ชอบสุงสิงกับผู้ใด ปกติจะออกไปทำไร่ทำนา เลี้ยงวัวควายตลอดวัน
นานๆ จึงจะไปหาซิสเตอร์สักครั้ง
เป็นคนซื่อ มักถูกเพื่อนล้อเลียนอยู่เสมอ
เมื่อซิสเตอร์อักแนสพิลาจัดทำฉลาก เด็กหญิงพรได้ไปกับนางเผือกน้าสาว
จับฉลากได้คำว่า "ถวายตัวเป็นมาร์ตีร์"
ซึ่งเธอก็ได้ถวายตัวจริงๆ ตามฉลากที่จับได้
เธอถูกสังหารเมื่อในวันที่ 26 ธันวาคม 1940 ขณะนั้นมีอายุได้ 14 ปี
และได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 22
ตุลาคม ค.ศ. 1989/พ.ศ. 2532
ครูคำสอนและมรณสักขี
ค.ศ. 1907-1940
(16 ธันวาคม)
ครูฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1907/พ.ศ. 2450 เกิดที่วัดนักบุญอันนา (หนองแสง) อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม บิดาชื่อนายอินตอง เป็นครูโรงเรียนวัดหนองแสง
มารดาชื่อนางเพ็ง มาจากซำเหนือ ประเทศลาว ครูสีฟอง
ได้รับการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนหนองแสง
เมื่อจบได้เข้าศึกษาต่อที่บ้านเณรเล็กที่บางนกแขวก ราชบุรี ขณะนั้นอายุได้ประมาณ 12-13
ปี เป็นเณรอยู่ประมาณ 3-4 ปี ก็ล้มเจ็บลง
ต้องมารับการรักษาที่กรุงเทพฯ (เข้าใจว่ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์)
ขณะรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ครูคนหนึ่งมาเยี่ยม
เห็นเณรสีฟองเหงาจึงชวนไปชมภาพยนตร์ ซิสเตอร์ที่โรงพยาบาลตรวจพบว่าเณรสีฟองหนีออกไปชมภาพยนตร์
จึงได้รายงานคุณพ่อโชแรง
ซึ่งเป็นเหรัญญิกของมิสซังกรุงเทพฯ ไปถึงคุณพ่ออธิการบ้านเณร
คือคุณพ่อการ์ตอง
เณรสีฟองจึงถูกสั่งให้พ้นสภาพเณรและถูกส่งตัวกลับบ้าน
เมื่อกลับมาอยู่ที่วัดหนองแสง นครพนม
สีฟองได้เข้าเรียนต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนปิยะมหาราชาลัย
โรงเรียนประจำจังหวัดนครพนม จนจบชั้นมัธยม 1 ทางมิสซังขาดครู
จึงได้ขอให้สีฟองมาเป็นครูของมิสซัง สีฟองจึงลาออกจากโรงเรียนมาเป็นครู ทางมิสซังขอให้มาสอนที่โรงเรียนวัดสองคอน
ครูสีฟองจึงได้ออกเดินทางโดยเรือ ซึ่งสะดวกที่สุดในสมัยนั้น ล่องลงตามลุ่มแม่น้ำโขงมาสอนประจำอยู่ที่วัดสองคอน
ตั้งแต่บัดนั้นประมาณปี ค.ศ. 1926 ครูสีฟองแต่งงานกับมารีอาทอง
ชาวบ้านเชียงยืน เมื่อปี ค.ศ. 1931/พ.ศ. 2474 มีบุตรธิดารวม 5 คนถูกสังหารเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1940 ขณะนั้นอายุ 33 ปี ครูสีฟองได้แสดงความเชื่อมั่นคงในพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างกล้าหาญ
เป็นแบบอย่างและเป็นผู้นำผู้อื่นให้มั่นคงในความเชื่อ
อันเป็นสาเหตุให้ท่านจบชีวิตด้วยความโหดร้าย
นับเป็นวีรกรรมสูงส่งที่ควรยกย่องสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น
ปอล ที่ 2 ได้ทรงแต่งตั้งเป็นบุญราศีแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1989/พ.ศ. 2532
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น